วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Atomy แนะนำ.........เคล็ดลับผิวสวย มาส์กหน้าเพื่อผิวขาวใส ด้วยส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ



          วิธีบำรุงผิวที่ง่าย รวดเร็วทันใจ และเห็นผลได้ไวที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นการมาส์กหน้าแน่นอนเลยค่ะ แค่นำมาส์กสูตรที่คุณชอบมาแปะทิ้งไว้ หลับตาพักผ่อนไปสัก 10-15 นาที จากนั้นก็นำแผ่นมาส์กออก แล้วก็จะพบกับผิวหน้าที่เหมือนเกิดใหม่ ทั้งชุ่มชื้นและดูกระจ่างใสขึ้น แต่เผอิญว่ามาส์กดี ๆ ยี่ห้อประจำของคุณนั้นก็แพงเกินกว่าจะซื้อมาใช้ได้บ่อย ๆ (มาส์กบางยี่ห้อ แค่แผ่นเดียวก็ราคาเท่ากับกินข้าวได้ 2 มื้ออิ่ม ๆ เลยทีเดียวนะ) ถ้าอย่างนั้นเรามาผสมมาส์กสูตรผิวขาวใสใช้เองกันดีกว่าค่ะ แถมยังใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอีกด้วยนะ ถูกใจสาว ๆ ที่อยากมีผิวใสกันแน่ ๆ เลยค่ะ

     1. น้ำมะนาว - น้ำผึ้ง

          ผสมน้ำมะนาวกับน้ำผึ้งในสัดส่วน 2:1 จากนั้นเติมน้ำที่ได้จากกการคั้นเนื้อแตงกวาลงไปอีก 3-4 หยด ทาลงบนหน้าที่สะอาด ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

     2. ขมิ้น - โลชั่นน้ำนม
          สูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว ผสมผงขมิ้นเล็กน้อยเข้ากับโลชั่นน้ำนม คนให้เข้ากัน แล้วทาทิ้งไว้บนใบหน้า 20 นาที จากนั้นจึงล้างออก ผิวจะนุ่มนิ่ม และดูใสนวลเนียน

     3. น้ำมันฝรั่ง - วิตามินอี
          มาส์กชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานวิตามินอีเสริมชนิดแคปซูลอยู่แล้ว โดยนำผงวิตามินอีจากในแคปซูลมาผสมกับน้ำที่คั้นมาจากมันฝรั่ง ให้ได้ส่วนผสมที่ขุ่น และดูข้นขึ้นเล็กน้อย ทาทิ้งไว้ที่ผิวจนแห้ง แล้วจึงล้างออก นอกจากจะผิวจะกระจ่างใส จุดด่างดำดูจางลงแล้ว ยังทำให้ผิวดูเปล่งประกายสุขภาพดีด้วย

     4. น้ำมันมะกอก - ผงเปลือกส้ม 
          สารจากเปลือกส้มช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้นได้ นำผงที่ได้จากการบดเปลือกส้มแห้ง ผสมกับน้ำมันมะกอกทีละหยด จนได้ส่วนผสมที่ข้นหนืด ทาลงที่ผิวหน้า ทิ้ง 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น นอกจากผิวจะใสแล้ว ยังนุ่มขึ้นด้วยค่ะ


Atomy..แนะนำ......รับประทานอาหารอย่างไรให้ผิวขาว

     

สำหรับสาวๆที่มีผิวคล้ำหลายคน คงจะหาทุกวิถีทาง เพื่อที่จะทำให้ผิวของคุณดูขาวขึ้น บางคนถึงกับต้องพึ่งสารเคมี เช่น การฉีดผิวขาว การกินยาผิวขาว หรืออื่นๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีทั้งหลาย รู้หรือไม่ว่า เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก ถึงแม้ว่าคุณสาวๆจะมีผิวที่ไม่ขาว ถึงอย่างไรก็ยังมีอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งทำให้คุณผิวขาวได้อย่างง่ายๆ นั่นคือ

น้ำมะพร้าว ลูกกลมๆมีน้ำข้างในอย่างลูกมะพร้าว น้ำของมันมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากในน้ำมะพร้าวจะมีสารเอสโตรเจนที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึงทำให้ผิวพรรณของคุณเนียนใส ดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น

ชาเขียว เป็นน้ำที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก จึงมีส่วนช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายทำให้ผิวสวยสดใส ทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันฟันผุได้อย่างดี
ธัญพีช ที่มีอยู่ทั่วไปลและหาง่าย เช่น ถั่วทุกชนิด ซึ่งนอกจากจะให้สารอาหารครบถ้วนทั้งวิตามิน โปรตีน และ เกลือแร่แล้ว เหล่าบรรดาข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี งา ต่างๆ ยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยขับสารพิษสะสมในร่างกาย ช่วยให้ผิวขาวสว่างใสอีกด้วย

นมถั่วเหลือง ซึ่งนอกจากจะมีไอโซเฟลโวน ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีวิตามินแทบทุกชนิดที่ให้คุณประโยชน์ดี ๆ กับผิวพรรณและร่างกาย ไขมันน้อย สำหรับใครที่อยากขาวและอยากลดความอ้วนคงต้องพึ่งนมถั่วเหลืองจะช่วยได้มากๆเลย



ปลาทะเลน้ำลึก นอกจากจะมีโปรตีน และ กรดอะมิโนจำเป็นจากปลาทะเลน้ำลึกแล้ว ยังจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อ ในร่างกาย ทำให้ผิวอ่อนเยาว์เปล่งปลั่ง อาทิ ปลาแซลมอน และ ปลาทูน่า เป็นต้น

ผักและผลไม้ สิ่งเหล่านี้มีเบต้าแคโรทีน และวิตามิน ซี อีสูงที่ช่วยในการลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวพรรณตึงกระชับสดใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าคุณประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้มีมากแค่ไหน ซึ่งในยุคปัจจุบัน ได้มีครีมบำรุงผิวมากมายได้นำเอาสารสกัดจากผักและผลไม้มาใช้กัน เพื่อความสวยความงานของคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ




แบ่งปันความรู้โดย


Atomy ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ผ่านอย. ทุกตัว ใช้ได้กับผิวของคนทั่วโลก ผลิตขึ้นมาเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้ที่รักสุขภาพและความงาม ในราคาที่ทุกคนสามารถซื้อใช้ได้ นานและตลอดไป ศึกษาและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของAtomyได้วันนี้คลิกที่นี่

หรือ แอดไลน์ มาที่นี่ค่ะ





Atomy.. แนะนำ........3 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพคุณสาว ๆ แค่ดื่มก็สวยได้





 Drink Yourself Beautiful แค่ดื่มก็สวยได้ 

          สุขภาพและความงามไม่ใช่แค่เรื่องภายนอก แต่สะท้อนออกมาจากภายใน และไม่ใช่แค่อาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพและความงาม หากสิ่งที่คุณดื่มก็ช่วยได้ 




ชาเขียว


          การดื่มชาเขียวเป็นประจำช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น รวมถึงช่วยย่อยอาหาร เพิ่มการเผาผลาญ และลดแม้กระทั่งความเสี่ยงโรคมะเร็ง ฉะนั้น ลืมกาแฟตอนเช้าซะ แล้วหันมาดื่มชาเขียวที่ไร้แคลอรี่แทน แค่จำไว้ว่ามันก็มีคาเฟอีน เพราะฉะนั้นอย่าดื่มก่อนนอน เพื่อจะได้ไม่รบกวนการนอนของคุณ

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Atomy แนะนำ...เคล็ดลับดูแลผิวสวยด้วยธรรมชาติ

ผู้หญิงทุกคนต้องการเป็นเจ้าของเรือนร่างและผิวพรรณที่สดใส จึงได้พยายามแสวงหาเทคโนโลยีต่างๆ มาเป็นเครื่องดูแลผิว แต่ความจริงแล้วเคล็ดลับต่างๆ นั้นหาได้จากธรรมชาติรอบๆ ตัวเรานี่เอง เพียงแต่ต้องใส่ใจกับผิวพรรณ แล้วเราจะได้เป็นเจ้าของสุขภาพที่ดีไปด้วย
 9 โซนสำคัญ กับสุขภาพผิวหน้า  

     ศาสตร์ของจีนโบราณเชื่อว่า ปัญหาสภาพผิวหน้าจากภายนอกสามารถสะท้อนถึงสุขภาพของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ ดังนั้น เทรนด์ใหม่ของการบำรุงผิวหน้าที่เรียกว่า “เฟส แม็ปปิ้ง” จึงเน้นวิเคราะห์สุขภาพผิวหน้าควบคู่ไปกับปัญหาของสุขภาพร่างกายด้วยเช่นกัน โดยแบ่งความสัมพันธ์ของผิวหน้าและระบบต่างๆ ทั่วร่างกายออกเป็น 9 โซน

   “หน้าผาก” สัมพันธ์กับระบบการย่อยอาหารและกระเพาะปัสสาวะ หากผิวบริเวณนี้เกิดสิวอักเสบ หรือผิวหน้าแห้งกร้านบ่อยๆ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย พร้อมทั้งหมั่นออกกำลังกาย และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

Atomy.. แนะนำ….ประโยชน์ของน้ำผึ้ง


***********************************************



น้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง (Honey) คือผลผลิตของน้ำหวานจากดอกไม้ และจากแหล่งอื่นๆ ที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ โดยผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีแล้วสะสมไว้ในรังผึ้ง ซึ่งปกติแล้วน้ำผึ้งจะมีกลิ่น รส สี ที่ต่างกันออกไปตามชนิดของพืชนั้นๆ จึงทำให้สามารถระบุชนิดของน้ำผึ้งตามชนิดของพืชนั้นได้ๆ เช่น น้ำผึ้งจากดอกส้ม ดอกลำไย ดอกลิ้นจี่ ก็จะแตกต่างกันออกไปซึ่งนิยมนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารหรือเครื่องดื่มนานาชนิด
ประโยชน์ของน้ำผึ้ง นั้นมีมากมาย เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟรุกโทสกับกลูโคส และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี เป็นต้น สำหรับสารประกอบอื่นๆที่มีอยู่ในปริมาณเพียงน้อยนิดนั้นจะเป็นสารที่ทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นหลัก

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

  1. ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
  2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
  3. ช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  4. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ดูมีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติ
  5. พอกหน้าด้วยน้ำผึ้งช่วยบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่นและนุ่มนวล หลังล้างหน้าเสร็จให้นำกล้วยหอมครึ่งลูก นำมาบดผสมรวมกับน้ำผึ้งแล้วยำมาทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
  6. ช่วยบำรุงรักษาผิวหน้าที่แห้งแตกลอกเป็นขุย ด้วยการนำไข่แดง 1 ฟองผสมกับน้ำผึ้งผสม 1 ช้อน คนให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
  7. ช่วยบำรุงสมอง ช่วยในเรื่องของความจำ
  8. ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนัง
  9. ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสวยเงางาม หลังสระผมเสร็จให้นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ นำมาชโลมให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก
  10. ช่วยบำรุงเสียงให้ใส ลดอาการเจ็บคอ
  11. ช่วยลดสิวเสี้ยน สิวอุดตันบนใบหน้า หลังล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเสร็จแล้ว ให้นำกล้วยหอมครึ่งลูก นำมาบดผสมรวมกับน้ำผึ้งแล้วยำมาทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
  12. นิยมนำมาใช้ผสมในเครื่องต่างๆ เช่น นม ชา กาแฟ โยเกิร์ต น้ำมะนาว หรือแม้กระทั่งเบียร์หรือไวน์
  13. นำมาใช้เป็นส่วนผสมในขนมหวานต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ธัญญพืชต่างๆ
  14. ใช้น้ำผึ้งแทนสารกันบูดในน้ำสลัด ซึ่งจะทำให้น้ำสลัดไม่เสียและเก็บได้นานถึง 9 เดือน
  15. น้ำผึ้งสามารถนำแปรรูปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆได้อย่างหลากหลายเช่น มาส์กหน้า สบู่ เจลล้างหน้า สครับ เป็นต้น
  16. น้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ
  17. ช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงต้านทานโรคต่างๆได้ดี
  18. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตในวัยเด็ก
  19. ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
  20. ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการทำงานหรือเล่นกีฬา
  21. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของผู้ป่วยในระยะพักฟื้น หรือผู้สูงอายุ
  22. ช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆให้ดีขึ้น
  23. ช่วยในควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วน
  24. ช่วยบำรุงเลือดในร่างกาย ด้วยการใช้น้ำผึ้งครึ่งช้อนโต๊ะใส่แก้ว แล้วบีบมะนาว ๅ ซีก ใส่เกลือเล็กน้อย แล้วเติมน้ำร้อนดื่ม
  25. ช่วยรักษาอาการหวัดให้หายเร็วขึ้น
  26. น้ำผึ้งสามารถบรรเทาอาการไอจากหวัดในเด็กได้ดีกว่ายาแก้ไอ
  27. ช่วยรักษาอาการเมาค้าง
  28. ช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้คงที่
  29. น้ำผึ้งมีฤทธิ์ยาระงับประสาทอ่อนๆ จึงช่วยลดอาการหงุดหงิด ความกังวลได้
  30. ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ และช่วยทำให้หลับสบายยิ่งขึ้น
  31. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้น้ำผึ้งและงาดำอย่างละ 50 กรัม โดยนำงาดำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำผึ้ง ชงกับน้ำร้อนดื่ม
  32. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้สาลี่หอมจำนวน 5 ลูก น้ำผึ้ง 250 กรัม โดยปอกลูกสาลี่แล้วนำมาตำให้ละเอียด นำไปคลุกกับน้ำผึ้งแล้วต้มจนเหนียว แล้วนำมาผสมกับน้ำกิน
  33. ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของธาตุเหล็กซึ่งช่วยในการเพิ่มเม็ดเลือดแดง
  34. ช่วยบำรุงหัวใจ ขับชีพจร และป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
  35. ช่วยบำรุงและรักษาโรคตับ
  36. ช่วยระงับความร้อนในร่างกาย
  37. ช่วยรักษาอาการตาอักเสบจากการติดเชื้อ เช่น กระจกตาอักเสบ เยื่อตาอักเสบ เป็นต้น
  38. ช่วยบรรเทาอาการไอ หลอดลมอักเสบมีเสมหะ ด้วยการชงดื่มกับน้ำมะนาว
  39. น้ำผึ้งช่วยลดกรดในกระเพาะ ช่วยในการย่อยอาหาร เพราะน้ำผึ้งจะถูกดูดซึมทันทีเมื่อถึงลำไส้ ซึ่งต่างจากน้ำตาลชนิดอื่น
  40. ช่วยรักษาโรคกระเพาะ
  41. ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียอย่างรุนแรง
  42. ช่วยแก้อาการท้องเดิน และช่วยบำรุงลำไส้ที่อักเสบให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
  43. ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแคนดิดา (Candida) ได้ดีพอๆกับยาฆ่าเชื้อแผนปัจจุบัน
  44. ช่วยแก้อาการเด็กปัสสาวะรดที่นอนเป็นประจำ เพราะช่วยดูดความชื้นและช่วยอุ้มน้ำไว้
  45. ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการนำกระเทียมผสมกับน้ำผึ้ง รับประทานวันละ 3 ครั้ง
  46. ช่วยป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ ด้วยการใช้น้ำส้มนำมาผสมกับแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนชาลงในน้ำร้อน แล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ชงดื่มวันละสองครั้ง
  47. ช่วยแก้อาการตะคริว หรือป้องกันการเป็นตะคริว
  48. ช่วยแก้อาการท้องผูก ด้วยการรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกจิ้มกับน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูกลงได้
  49. ช่วยลดการอักเสบของบาดแผล
  50. ช่วยป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลและช่วยให้แผลหายเร็ว
  51. ช่วยรักษาโรคฮ่องกงฟุต และกลาก เกลื้อน
  52. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและต่อต้านจุลินทรีย์
  53. ช่วยแก้ปัญหาเด็กแหวะนม โดยใช้น้ำผึ้งผสมกับนมดื่ม
  54. ใช้เป็นน้ำกระสายยา
    แบ่งปันความรู้โดย

    Atomy ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ผ่านอย. ทุกตัว ใช้ได้กับผิวของคนทั่วโลก ผลิตขึ้นมาเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้ที่รักสุขภาพและความงาม ในราคาที่ทุกคนสามารถซื้อใช้ได้ นานและตลอดไป ศึกษาและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของAtomyได้วันนี้คลิกที่นี่

    หรือ แอดไลน์ มาที่นี่ค่ะ

Atomy แนะนำเกี่ยวกับ….รอยคล้ำใต้ตา(dark circles under eyes)


รอยคล้ำใต้ตา(dark circles under eyes)
รอยคล้ำใต้ตานี้มักเป็นลักษณะทางกรรมพันธุ์ และเป็นลักษณะเฉพาะของผิวหนังบริเวณใต้ตาซึ่งบางและมีไขมันน้อยมาก เม็ดเลือดที่ไหลผ่านหลอดเลือดดำที่ใต้ผิวหนังบริเวณนี้ทำให้ผิวมีสีออกคล้ำได้ และบางครั้งหากขยี้ตาแรงๆ เม็ดเลือดแดงอาจรั่วออกมาจากหลอดเลือด และทำให้รอบตาคล้ำมากขึ้นได้
รอยคล้ำใต้ตานี้อาจจะยิ่งคล้ำขึ้นเวลาเหน็ดเหนื่อยพักผ่อนไม่เพียงพอ อดหลับอดนอน (หลายๆ ท่านทราบกันดีว่าถ้านอนดึกมากๆ วันรุ่งขึ้นตาจะเหมือนตาหมีแพนด้า) หรือยามที่ร่างกายขาดอาหาร มีภาวะโลหิตจางทำให้ซีด
ในผู้หญิงอาจพบว่ารอยคล้ำใต้ตาเด่นชัดขึ้นในช่วงระยะหลังของการตั้งครรภ์ หรือระหว่างมีประจำเดือน และยังพบว่ายิ่งมี อายุมากขึ้นจะยิ่งเป็นรอยคล้ำใต้ตามากขึ้น "ขอบตาดำ" นั่นน่ะ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
1.กรรมพันธุ์ ถ้าคนไทยมีขอบตาดำ แล้วลองหันไปมองญาติพี่น้อง พ่อแม่ของคุณดูว่าเป็นแบบเดียวกับที่คุณเป็นหรือไม่ ถ้าเป็นละก็ การรักษาและป้องกันอาจจะยากหน่อยนะ
2. เมลานินที่จมอยู่ใต้ผิว ทำให้ใต้ตามีสีที่เข้มกว่า เพราะการไหลเวียนของโลหิตไม่ดี ก็จะทำให้ดูเหมือนเป็นฝ้าดำตรงใต้ตา

3.ภูมิแพ้ คนที่เป็นภูมิแพ้ จะพบว่าเส้นเลือดดำที่อยู่รอบตาจะขยายใหญ่มากกว่าคนทั่วไป และเส้นเลือดดำเหล่านี้นี่เอง ที่เป็นสาเหตุให้ขอบตาของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ดูคล้ำกว่าคนทั่วไป
4.การระคายเคืองแถว ๆ รอบตา ก็สามารถทำให้ขอบตาคล้ำได้เช่นกัน โดยเฉพาะการขยี้ตาบ่อย ๆ เพราะการขยี้ตา จะกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีให้เพิ่มจำนวนขึ้นบริเวณนั้น หรือแม้แต่การแพ้ครีมทารอบดวงตา บางคนอาจแพ้สารบางอย่างในครีม ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่า ใครจะแพ้สารตัวใด ใครบ้างที่จะเป็น ถ้ารู้ว่าแพ้คงต้องหยุดการทาครีมดังกล่าว ถ้าไม่ทราบอาจต้องพึ่งการทดสอบว่าแพ้สารที่ต้องสงสัยหรือไม่
5. อดนอน สาเหตุนี้พบบ่อยมากเลยทีเดียวในสภาพสังคมปัจจุบัน ใครที่รู้ตัวว่าอดนอนบ่อย ๆ หรือนอนดึก ก็ขอให้นอนเร็วขึ้น เพื่อที่ขอบตาจะได้ดูสดใสกว่าเดิม
6.เป็นปานโอตะ อย่าเพิ่งงงไปค่ะ ปานโอตะที่ว่านี้คือ เซลล์เม็ดสีที่อยู่ในชั้นหนังแท้ โดยพบในบางคนที่มีความผิดปกติที่เซลล์สร้างเม็ดสีอยู่ผิดที่ ซึ่งมักพบบริเวณรอบ ๆ ตา โดยมากมักจะเป็นข้างเดียว แต่มีบางคนอาจเป็นได้ทั้ง 2 ข้าง ทำให้ขอบตาดูเขียวคล้ำ
7.อายุ สาว ๆ ที่มีอายุมากขึ้น อาจเผชิญกับปัญหาขอบตาดำได้ เพราะผิวหนังจะเริ่มหย่อนคล้อยลง โดยเฉพาะตรงวงใต้ตาจะเห็นเป็นเงาและลึก ทำให้รอบดวงตาดูเป็นสีคล้ำอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
8.การไหลเวียนของโลหิตไม่ดีพอ หรือ การสูบฉีดไม่ทั่วถึงนั่นเอง ทำให้โลหิตคั่งตรงใต้ตาไม่กระจายไปที่อื่น พอนาน ๆ เข้า ใต้ตาจะทำให้เป็นสีเข้ม และเพราะผิวบริเวณใต้ตาบอบบางมาก ทำให้มองเห็นเป็นสีดำเข้มกว่าส่วนอื่น ๆ
แล้วจะแก้ขอบตาดำ ได้อย่างไรล่ะ

วิธีแก้ขอบตาดํา

  1. หาสาเหตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การรักษาผิวใต้ตาหมองคล้ำทำให้กลับมาสดใสดั่งเดิม ก็ควรเริ่มจากหาสาเหตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากรอยคล้ำใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ และแต่ละสาเหตุจะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ผู้ที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตาจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุรอยคล้ำใต้ตาก่อน เพื่อจะได้เลือกวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น หากขอบตาดำเป็นเพราะการขยี้ตาบ่อย ๆ ก็ให้เลิกขยี้ตาซะ หรือเป็นเพราะแพ้เครื่องสำอาง ก็ให้ทดสอบการแพ้เครื่องสำอางก่อนการใช้ หรือถ้าเป็นเพราะพักผ่อนน้อย อดหลับอดนอน ก็พักผ่อนนอนหลับให้มาก ๆ ฯลฯ
  2. ดูแลตัวเอง โดยเริ่มจากการลดบริโภคอาหารไม่มีประโยชน์ แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ดื่มน้ำมะเขือเทศที่ผสมกับน้ำมะนาวและเกลือ (อาจใส่ใบมิ้นต์ลงไปด้วยเล็กน้อย) เน้นเพิ่มอาหารที่มีวิตามินซีในทุกมื้ออาหาร หรือนำแครอทไปวางไว้ในน้ำร้อนสักพัก แล้วดื่มน้ำนั้นก่อนอาหาร 3 ครั้งต่อวันก็ได้ เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหารอบตาดำคล้ำได้, รวมไปถึงการดื่มน้ำให้มาก ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น, หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ, เลิกสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่มีอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น ดูแก่ก่อนวัย และทำให้เกิดคล้ำใต้ตา, หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะผิวใต้ตาจะอ่อนบางกว่าบริเวณอื่น ๆ หากถูกแสงแดดมาก ๆ ผิวส่วนนั้นก็จะบางลงจนมองเห็นเส้นเลือดดำใต้ผิวได้, หาวิธีกำจัดความเครียดพร้อมทั้งนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะช่วงเวลาเราหลับกลางคืนจะเป็นช่วงเวลาแห่งการซ่อมแซมร่างกาย ดวงตาเองก็จะได้รับการซ่อมแซมเช่นกัน โดยคุณควรนอนหลับ 6-8 ชั่วโมงทุกคืนจะดีที่สุด อ้อ..เพิ่มเติมอีกนิด การหนุนหมอนมีคำแนะนำว่าให้คุณหนุนหมอนในขนาดพอเหมาะที่สามารถยกให้ศีรษะสูงขึ้นเหนือระดับของหัวใจเล็กน้อย และให้นอนในท่าหงาย เพื่อช่วยป้องกันของเหลวที่ไหลมารวมกันอยู่บริเวณศีรษะ
  3. รอยคล้ำจางหายด้วยนิ้วมือ เป็นวิธีที่ง่ายสุดในการช่วยขจัดปัญหารอยคล้ำรอบดวงตาที่มีสาเหตุมาจากการที่เลือดไหลเวียนไม่ดี วิธีนี้ให้คุณใช้นิ้วชี้กดเบา ๆ ที่ใต้ตาด้านล่างช้า ๆ จากซ้ายไปขวา โดยให้ทำซ้ำไปมาประมาณ 10 ครั้ง และควรทำหลังจากตื่นนอนตอนเช้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยไล่ความคล้ำที่เกาะอยู่รอบดวงตาให้จางหายไปได้ ส่วนอีกวิธีให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น นำมาประคบบนเปลือกตาประมาณ 5 นาที แล้วให้ล้างด้วยน้ำเย็นจัด จากนั้นให้หลับตาลงพร้อมกับใช้นิ้วกลางกดที่หางคิ้วทั้งสองข้าง แล้วใช้นิ้วโป้งกดเบ้าตาช่วงหัวตาค้างไว้ประมาณ 5 วินาที ค่อย ๆ ปล่อยแล้วกดลงไปใหม่ทำซ้ำกันประมาณ 5-10 ครั้ง ต่อมาให้ใช้นิ้วกลางกดที่สันจมูก ช่วงหัวตาค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วค่อย ๆ ปล่อยแล้วกดลงไปใหม่ทำซ้ำกันประมาณ 5-10 ครั้ง
  4. สูตรบำรุงรอบตาให้สวยได้ในข้ามคืน วิธีแรกให้ใช้วุ้นว่านหางจระเข้สด ๆ นำมาทาใต้ตา แล้วนวดเป็นวงกลม ทิ้งไว้แบบนั้นแล้วเข้านอน จะช่วยแก้ปัญหารอบตาคล้ำได้ หรืออีกวิธีให้ใช้น้ำสะระแหน่นำมาทารอบดวงตาก่อนเข้านอน ซึ่งจะช่วยทำให้รอยดวงตาที่ดำคล้ำค่อย ๆ จางหายไป ส่วนวิธีสุดท้ายให้ใช้ผงจันทน์เทศนำมาผสมกับนมสด แล้วนำมาทาใต้ตาพอกทิ้งไว้ข้ามคืน พอตื่นเช้ามาก็จะพบกับรอบดวงตาอันสดใสและไม่ดำคล้ำ
  5. ทรีทเม้นท์เบา ๆ แต่ได้ผล มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน วิธีแรกให้คุณนำสำลีกลม ๆ จุ่มลงในน้ำเย็นหรือน้ำกุหลาบ วางทิ้งไว้บนเปลือกตาประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก, ส่วนวิธีที่สองให้คุณใช้เกลือ 1 ช้อนชา นำมาผสมกับน้ำร้อนครึ่งถ้วย แล้วใช้ผ้านุ่ม ๆ หรือสำลีชุบน้ำเกลือและบีบน้ำออกเล็กน้อย แล้วนพมาปิดเปลือกตาทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที, วิธีที่สามให้นำช้อนที่แช่เย็นจัดมาวางไว้บนเปลือกตาสักพัก เพื่อช่วยคลายอาการรอบดวงตาที่ดำคล้ำ, วิธีที่สามให้ใช้ช้อนเหล็กปาดวาสลีนออกมาแล้วนำไปแช่แข็งให้เย็นจัด แล้วจึงนำวาสลีนนั้นมาทารอบดวงตา ส่วนอีกวิธีให้นำผักชีฝรั่งไปวางไว้บนถาดทำน้ำแข็งที่มากับตู้เย็น พร้อมกับเติมน้ำลงไปเพื่อทำเป็นน้ำแข็งก้อน แล้วนำก้อนน้ำแข็งที่มีผักชีฝรั่งอยู่ในน้ำแข็งนั้นมาลูบ ๆ วน ๆ รอบดวงตาที่ดำคล้ำ สารคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในผักชีฝรั่งจะช่วยขจัดรอบคล้ำใต้ตาได้ รวมทั้งน้ำแข็งยังช่วยลดอาการตาบวมได้อีกด้วย
    ขอบตาดําทําไงดี

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Atomy แนะนำเกี่ยวกับ….ฝ้า (Melasma) ปัญหาสุดกลุ้มของผิวพรรณ

Atomy ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบัน ผ่านอย. ทุกตัว ใช้ได้กับผิวของคนทั้งโลก ผลิตขึ้นมาเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้ที่รักสุขภาพและความงาม ในราคาที่ทุกคนสามารถซื้อใช้ได้ นานและตลอดไป ศึกษาและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของAtomy ได้วันนี้คลิกที่นี่
*********************************************

ฝ้า

ฝ้า (Melasma) ปัญหาสุดกลุ้มของผิวพรรณ ที่เรียกได้ว่าเป็นญาติสนิทกับรอยกระ เพราะกระบวนการเกิดนั้นคล้ายคลึงกันมาก แต่ฝ้าจะมีบริเวณที่กว้างกว่า มองเห็นได้ชัดกว่า สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนองใบหน้า แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีฝ้าบริเวณโหนกแก้ม โดยตัวเลขเฉลี่ยของคนที่เป็นฝ้าส่วนใหญ่จะเริ่มจากวัย 30 ปีขึ้นไป

สาเหตุการเกิดฝ้า

ฝ้าเกิดจากอะไร ? ฝ้า หรือ Melasma เกิดจากการที่เม็ดสีผิวหรือเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ทำงานมากเกินไป จึงทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เนื่องมาจากเจ้าเม็ดสีเมลานินนั้นมีหน้าที่กรองรังสียูวี เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นตามไปด้วย โดยรังสีที่มีผลต่อการเกิดฝ้าคือ “รังสี UVA” ซึ่งรังสียูวีเอจะมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสียูวีบี จึงสามารถทำลายผิวได้ลึก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อตากแดดนานๆ แล้วผิวถึงคล้ำเสียได้ และนอกจากแสงแดดแล้ว เรื่องของการใช้เครื่องสำอางบางชนิด การทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด รวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน (ถ้าสาเหตุการเกิดฝ้ามาจากกรรมพันธุ์ โอกาสฝ้าจะกลับมาเกิดซ้ำจะมีสูงมาก และปริมารอาจเท่าเดิมหรือลดลงกว่าเดิมเล็กน้อย จึงไม่คุ้มค่ากับการทุ่มเงินรักษาเท่าไหร่)

ฝ้าต่างจากกระ “เพราะฮอร์โมน” ถ้าเป็นกระส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากแสงแดด ความร้อน และอายุ แต่ในกรณีของฝ้ามักจะมีปัจจัยฮอร์โมนเข้ามาค่อนข้างเยอะ เช่น มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็วตอนตั้งครรภ์ รวมไปถึงการที่ฮอร์โมนลดลงอย่างรวดเร็วก็ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน อย่างช่วงการเข้าสู่วัยทอง และวัยหมดประจำเดือน เป็นต้น

ประเภทของฝ้า

  • ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้โดยใช้เวลาไม่นาน
  • ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ความลึกของมันจะทำให้เกิดการแสดงสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง เป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก การทายามักให้ผลเพียงแค่ทำให้ดูจางลงเท่านั้น

วิธีรักษาฝ้าโดยธรรมชาติ(ถ้าคุณมีเวลา)

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Atomy..แนะนำ….บ่มผิวให้สวยเนียนด้วยน้ำผึ้ง-Propolis



น้ำผึ้ง ถือเป็นยาอายุวัฒนะที่ได้รับการกล่าวถึงตั้งแต่ยุคโบราณ ชาวกรีกจะดื่มน้ำผึ้งก่อนลงแข่งกีฬาโอลิมปิก เพราะเชื่อว่า น้ำผึ้งช่วยขจัดความเมื่อยล้าได้ ชาวอียิปต์ได้ใช้น้ำผึ้งช่วยสมานแผลในการผ่าตัด เพื่อฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงการทำมัมมี่เพื่อช่วยรักษาสภาพร่างกายของมัมมี่ให้คงอยู่ทนนาน นอกจากนี้น้ำผึ้งยังเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ถูกใช้เพื่อความงามมา ตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบันอย่างแพร่หลายอย่างที่เห็นกันในโฆษณาโทรทัศน์ น้ำผึ้งถูกนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เช่น สบู่ แชมพู และครีมบำรุงผิวพรรณชนิดต่างๆ

ส่วนประกอบของน้ำผึ้งจากธรรมชาติ

น้ำผึ้ง เป็นผลิตผลของน้ำหวาน (nectar) จากดอกไม้ และจากแหล่งน้ำหวานอื่นๆ เช่น น้ำหวานจากเพลี้ย ที่ผึ้งไปเก็บมา ผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และกายภาพบางประการ แล้วสะสมไว้ในรังผึ้ง โดยน้ำผึ้งจะประกอบด้วย

1. น้ำ เป็นส่วนประกอบไม่เกิน 20% 2. คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่มากที่สุด คือ มีปริมาณ 79% ในรูปของน้ำตาลฟรุกโทส และกลูโคส โดยมีปริมาณน้ำตาลฟรุกโทส มากกว่าน้ำตาลกลูโคสเล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งไม่ตกผลึก และมีรสหวานกว่าน้ำตาลชนิดอื่น 3. กรด มีประมาณ 0.5% ทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย โดยกรดที่พบมากคือ กรดกลูโคนิก 4. แร่ธาตุ มีประมาณ 0.5% ได้แก่ แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี เหล็ก แมงกานีส ทองแดง โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้มจะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งที่มีสีอ่อน 5. วิตามิน เช่น วิตามินบี 1,2 และ 6 วิตามินซี เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามส่วนประกอบของน้ำผึ้งอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหรือ ชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินนั้น ๆ ที่ผึ้งเจริญเติบโตอยู่ด้วย

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Contact Us


We came from Korea. This is a super network market around the world. Please order by yourself or become a member. Start a business! For more information, go to http://www.atomy.com/th/Home

OR
Add my FACEBOOK HERE
Add line: Click hereคลิกที่นี่ ค่ะ



แอดเฟสบุ๊คแอดมินที่นี่ค่ะ
อินบ็อกซ์มาเลยค่ะ
 โทร: 082-072-2613
email: maywarina@gmail.com
หรือ แอดไลน์ Add line: Click hereคลิกที่นี่ ค่ะ